ชาวออสเตรเลียที่อ้างตัวว่าเป็นผู้คิดค้นสร้างเงิน Bitcoin กำลังถูกฟ้องร้องฐานมีส่วนร่วมวางแผนขโมยเงินดิจิตอลและทรัพย์สินอย่างอื่นรวมกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์จากอดีตหุ้นส่วนธุรกิจของเขา
นักธุรกิจออสเตรเลีย เคร็ก ไรท์ ได้อ้างในปี 2016 ว่าเขาคือคุณซาโตชิ นากาโมโตะ ผู้คิดค้นที่ทำตัวลึกลับของ Bitcoin ซึ่งเป็นเงินดิจิตอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบัน
สำนวนฟ้องระบุว่า ทรัพย์สินมรดกที่คุณไคลแมน ทิ้งไว้มีรวมไปถึงการเป็นเจ้าของ Bitcoin และทรัพย์สินทางปัญญารวมเป็นมูลค่า 5,118 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น คำฟ้องยังกล่าวถึงความไม่ชัดเจนว่า คุณไรท์ หรือคุณไคลแมน หรือทั้ง 2 คนได้ร่วมกันคิดค้นสร้างบิทคอยน์ขึ้นมา แต่ผู้ยื่นฟ้องคดีชี้ว่า สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือทั้ง 2 คนมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับ Bitcoin มาตั้งแต่ต้น โดยได้สะสมรวบรวม Bitcoin ไว้เป็นจำนวนมากในช่วงปี 2009-2013
คำฟ้องระบุต่อไปว่าคุณไรท์ได้ทำสัญญาขี้นอย่างน้อย 3 ฉบับในลักษณะฉ้อฉลหลอกลวง พร้อมกับมีการปลอมลายเซ็นที่ทำด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการอ้างกรรมสิทธิ์ใน Bitcoin ที่ขุดโดยคุณไคลแมน
คุณไรท์ขณะนี้เป็นหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ในสาขาบล๊อกเชนของบริษัทชื่อ nChain แต่เขายังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีนี้เมื่อ CNBC พยายามติดต่อสอบถามไป
นักธุรกิจออสเตรเลีย เคร็ก ไรท์ ได้อ้างในปี 2016 ว่าเขาคือคุณซาโตชิ นากาโมโตะ ผู้คิดค้นที่ทำตัวลึกลับของ Bitcoin ซึ่งเป็นเงินดิจิตอลที่มีมูลค่ามากที่สุดในปัจจุบัน
แต่สำนวนคำฟ้องที่ยื่นต่อศาลแขวงตอนใต้ของรัฐฟลอริด้า ระบุว่า คุณไรท์ ได้วางแผนที่จะหลอกลวงคุณเดฟ ไคลแมน ผู้เชี่ยวชาญ IT เป็นมูลค่าเท่ากับหลายแสนเหรียญ Bitcoin และสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี Block-chain
Block-chain เป็นระบบบัญชีที่แยกส่วนประกอบออกเป็นหลายๆส่วนจำนวนมาก ซึ่งใช้เป็นฐานรองรับการซื้อขายเงิน Bitcoin
คุณไคลแมน มีปัญหาพิการจนต้องนั่งรถเข็น หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถจักยานยนต์ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในเดือน เม.ย. ปี 2013 ด้วยโรคติดเชื้อ โดยน้องชายของคุณไคลแมนชื่อ ไอร่า เป็นผู้แทนที่ยื่นฟ้องต่อศาลแทนเขาในคดีนี้
สำนวนคำฟ้องระบุว่า คุณไรท์และคุณไคลแมน ได้ตกลงเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในการขุดและเก็บสะสมบิทคอยน์ โดยทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของบิทคอยน์ร่วมกันมากกว่า 1.1 ล้านเหรียญ
สำนวนฟ้องกล่าวว่าในปี 2011 หุ้นส่วนทั้ง 2 คนร่วมกันก่อตั้งบริษัท W&K Info Defense Research LLC เพื่อทำธุรกิจขุดหา Bitcoin และพัฒนาวิจัยซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้อง โดยคุณ ไคลแมนได้ถือหุ้นในสัดส่วน 50-100% ใน W&K
Block-chain เป็นระบบบัญชีที่แยกส่วนประกอบออกเป็นหลายๆส่วนจำนวนมาก ซึ่งใช้เป็นฐานรองรับการซื้อขายเงิน Bitcoin
คุณไคลแมน มีปัญหาพิการจนต้องนั่งรถเข็น หลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถจักยานยนต์ ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงในเดือน เม.ย. ปี 2013 ด้วยโรคติดเชื้อ โดยน้องชายของคุณไคลแมนชื่อ ไอร่า เป็นผู้แทนที่ยื่นฟ้องต่อศาลแทนเขาในคดีนี้
สำนวนคำฟ้องระบุว่า คุณไรท์และคุณไคลแมน ได้ตกลงเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจในการขุดและเก็บสะสมบิทคอยน์ โดยทั้ง 2 คนเป็นเจ้าของบิทคอยน์ร่วมกันมากกว่า 1.1 ล้านเหรียญ
สำนวนฟ้องกล่าวว่าในปี 2011 หุ้นส่วนทั้ง 2 คนร่วมกันก่อตั้งบริษัท W&K Info Defense Research LLC เพื่อทำธุรกิจขุดหา Bitcoin และพัฒนาวิจัยซอฟท์แวร์ที่เกี่ยวข้อง โดยคุณ ไคลแมนได้ถือหุ้นในสัดส่วน 50-100% ใน W&K
สำนวนฟ้องระบุว่า ทรัพย์สินมรดกที่คุณไคลแมน ทิ้งไว้มีรวมไปถึงการเป็นเจ้าของ Bitcoin และทรัพย์สินทางปัญญารวมเป็นมูลค่า 5,118 ล้านดอลลาร์
นอกจากนั้น คำฟ้องยังกล่าวถึงความไม่ชัดเจนว่า คุณไรท์ หรือคุณไคลแมน หรือทั้ง 2 คนได้ร่วมกันคิดค้นสร้างบิทคอยน์ขึ้นมา แต่ผู้ยื่นฟ้องคดีชี้ว่า สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือทั้ง 2 คนมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับ Bitcoin มาตั้งแต่ต้น โดยได้สะสมรวบรวม Bitcoin ไว้เป็นจำนวนมากในช่วงปี 2009-2013
คำฟ้องระบุต่อไปว่าคุณไรท์ได้ทำสัญญาขี้นอย่างน้อย 3 ฉบับในลักษณะฉ้อฉลหลอกลวง พร้อมกับมีการปลอมลายเซ็นที่ทำด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการอ้างกรรมสิทธิ์ใน Bitcoin ที่ขุดโดยคุณไคลแมน
คุณไรท์ขณะนี้เป็นหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ในสาขาบล๊อกเชนของบริษัทชื่อ nChain แต่เขายังไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคดีนี้เมื่อ CNBC พยายามติดต่อสอบถามไป